วิธีดามหัวใจเวลาอกหัก ให้พิการทางกาย
ยังดีกว่าพิการทางใจหลายร้อยเท่า
แต่...แต่อย่าเพิ่งเข้าขั้นโคม่าขนาดนั้นเลยท่าน โอ้ย...
อกหักครั้งสองครั้งน่ะจิ๊บจ๊อย
เพราะในอนาคตคุณยังต้องเผชิญกับรักร้าวและรักลวงอีกเยอะ แค่นี้ปวดแสบปวดร้อน
ยังน้อยไป ทว่าหัวใจยังทำด้วยเนื้อ ต่อให้เอาเหล็กมาหุ้มไว้
ถ้าเพิ่งแยกทางกับคนที่เคยรัก จะไม่ให้รู้สึกอะไรเลย คงตลกสิ้นดี
งั้นถ้าหากอยากฟื้นจากพิษรัก ก็มีบันไดให้เดินตามขั้นตอนต่อไปนี้
|
|
1. จำไว้ว่า
เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง เป็นไปได้ว่า
ตอนที่คุณถูกคนรักทิ้งขว้าง
แน่ล่ะมันย่อมเป็นช่วงที่คุณรู้สึกเสียศูนย์มากที่สุดในชีวิต
เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจและคิดเตลิดเปิดเปิงว่า
อุตส่าห์รักขนาดนี้ยังทิ้งเราได้ลงคอ แต่ขอให้คิดไกลไปอีกนิดด้วยว่า
ทุกวันนี้คุณก็ยังเป็นคนเดิม คนที่ครั้งหนึ่งเป็นที่รักของใครบางคน
ไม่ได้เปลี่ยนไปในทางเลวร้ายแต่อย่างใดหรอก
|
|
2.
ตอนที่คุณตกอยู่ในห้วงแห่งรักไม่สมหวังอย่างนี้รู้ไหมว่า คุณกำลังอ่อนแอทั้งร่างกาย
และจิตใจ สภาพโทรมจัดแบบนี้ มีสิทธิ์ถูกคนอื่นกลั่นแกล้ง ได้ง่าย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าช้ำในนานนัก หมั่นดื่มน้ำ
ใบบัวบกหรือน้ำเก๊กฮวยให้มันหายเก๊กซิมซะเร็วๆ
|
|
3.
หากฟังคำพูดตัดสวาทของอีกฝ่ายแล้วยังไม่แน่ใจว่า เขาหรือเธอพูดจริงหรือพูดเล่น
สอบถามอีกทีก็ได้นี่ว่า เราหมดเยื่อไม่เหลือใยกันจริงหรือ?
ถ้ายังได้รับการยืนยันว่า ใช่ เค้าเรียกว่า
ยังสะเออะไปถามให้ตัวเองหน้าแหกอีกทำไมก็ไม่รู้
สู้เอาเวลาไปตั้งหน้าตั้งตาจีบคนใหม่ดีกว่า การผิดหวัง
อาจชักพาให้คุณสมหวังกับคนที่เหมาะสมยิ่งกว่าคนเก่าก็ได้ สักวันอาจเจอ "รักแท้"
ที่จริงใจกว่าเดิม มีรักเหนียวแน่นกว่าครั้งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้
|
|
4. ช้ำรักมักทำให้คุณขมขื่นก็จริง
แต่ อย่าไปแสดงออกให้คนในอดีตของคุณรู้เข้าล่ะ เพราะไม่งั้น
เขาจะหาว่า คุณขาดวุฒิภาวะ ยังไม่ เป็นผู้ใหญ่พอ ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
หากยังควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วจะไปควบคุมอะไรไหวล่ะเนี่ย
|
|
5. ขอเวลานอก หลบไปพักผ่อน
หรือยุติเรื่องหนักๆ ไว้ชั่วคราว สิ่งที่คุณเพิ่งเจอมานั้น
สร้างความบอบช้ำมากพออยู่แล้ว ถ้าจิตใจยังไม่ปกติ ก็อย่าแสร้งทำเป็นว่า
ตัวเองไม่เป็นอะไร การถูกคนรักตัดพ้อต่อว่า, ถูกสลัดรัก หรือถูกทิ้งทุกคน
(ที่มีแฟน) ล้วนมีประสบการณ์ทำนองนี้ มาแล้วทั้งนั้น และอาจเผลอไปทำกับคนอื่นเอาไว้
แบบนี้เหมือนกัน ใช่ว่าจะถูกเขาทำฝ่ายเดียวซะที่ไหนล่ะ แต่หากหนีไปจากเรื่องวุ่นๆ
ซ้ำซากจำเจได้ชั่วคราว ขอให้รีบทำ ขืนอยู่ที่เดิมๆ
คงไม่แคล้วเห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด
|
|
6. ถ้าไม่กลายเป็นคนซึมกะทือ
หรือมัมมี่เดินได้แล้วไซร้ การไปสังสรรค์ออกสังคม
พบปะผู้คนบ้าง อาจช่วยให้ลืมเรื่องเก่าๆได้ แม้จะลืมได้ไม่ถาวร
แต่ลืมได้ชั่วคราวก็ยังดี เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะลืมตลอดกาลไปเองนั่นแหละ ทีเรื่องอื่น
ทำไมถึงขี้ลืมกันเหลือเกิน ตรงข้ามกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไยลืมไม่ลง ก็บ่ฮู้ สุดท้าย
แทนที่คุณจะเกลียดอดีตหวานใจ เปลี่ยนเป็นจากกันด้วยดีและยังมี
ความปรารถนาดีต่อกันซะเถิด อย่างน้อย เราคงเหลือความทรงจำดีๆต่อกันอยู่บ้าง
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น